Oxford ออกซ์ฟอร์ด
"เมืองแห่งการศึกษา" และเป็นที่ตั้งของ University of Oxford มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสถานที่ๆ ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter หลังภาคต่อที่โด่งดังที่สุดในยุค 2000 เพราะเป็นเมืองสวย น่าอยู่ และมีที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย นอกเหนือจากตรงนี้ยังมีสถานที่ไฮไลท์ที่ต้องเยือนอย่าง Oxford Castle,Sheldonian,Magdalen College,Radcliffe Square ฯลฯ จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทุกวัยที่มาแล้วไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน
✈️วันนี้ IK ภูมิใจนำเสนอ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดฮิตในปี 2023 📍
มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford) ตั้งอยู่ใน เมืองอ๊อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร และเป็น Oxford
(อ๊อกซ์ฟอร์ด) เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยภายในมหาวิทยาลัยก็จะประกอบไปด้วยวิทยาลัยที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยมากกว่า 30 แห่ง ซึ่งแต่ละวิทยาลัยก็จะมีความแตกต่างหลากหลายในเรื่องของสาขาวิชาและหลักสูตร ประกอบกับระบบการศึกษาที่มีความทันสมัยด้วยเหตุนี้ทำให้เหล่าบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกจำนวนมากเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริงและเป็นมหาวิทยาลัยที่มีอายุไม่น้อยกว่า 800 ปี โดยประวัติการก่อตั้ง ไม่มีหลักฐานที่แน่นอน แต่มีหลักฐานว่าอ๊อกซฟอร์ดได้เริ่มสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 1639 (ค.ศ. 1096) นอกจากชื่อเสียงทางการการศึกษาแล้ว สถาปัตยกรรมของ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ก็มีความสวยงามไม่น้อย จึงไม่แปลกเลยหากที่นี่จะเคยเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์อย่าง แฮร์รี่พ็อตเตอร์ ทั้งในส่วนของ เดอะคลอยสเตอร์ นิว คอลเลจ (The Cloisters, New College) ที่เป็นฉากใน แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ภาค 4 และ ไครสต์เชิร์ชคอลเลจ (Christ Church College) ที่เป็นทั้งฉากถ่ายทำ แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ภาค 1 รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมโปรดักชั่นนำห้องโถงของที่นี่ไปสร้างเป็น ห้องโถงฮอกวอตส์ (The Great Hall) ในสตูดิโอที่ลอนดอนด้วยค่ะ
ขอบคุณ : travel.trueid.net
Bodleian Library ห้องสมุดบอดเลียนมีหนังสือจำนวนมากมายมหาศาลในทุกเรื่องที่คุณจะนึกออก ที่นี่เป็นห้องสมุดสำหรับการวิจัยหลักของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดซึ่งนักศึกษาใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการเรียน ห้องสมุดนี้ก่อตั้งในปี 1602 และเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ ประกอบด้วยอาคาร 5 หลัง รวมถึงห้องใต้ดินอีกหลายห้อง ขณะที่คุณเดินสำรวจ คุณอาจได้ยินนักศึกษาเรียกที่นี่ด้วยความคุ้นเคยว่า “บอดลีย์” หรือแม้กระทั่ง “บอด” เอกสารเด่นๆ ที่มีค่าที่สุดในห้องสมุดนี้ได้แก่ จดหมายของกวี Percy Bysshe Shelley หนังสือ Magna Carta สี่เล่ม คัมภีร์ Gutenberg Bible ตั้งแต่ปี 1455 และคอลเล็กชันงานเขียนชุดแรกของวิลเลียม เชคสเปียร์สมัยปี 1623 ห้องสมุดบอดเลียนตั้งอยู่ระหว่างวิทยาลัย Hertford กับวิทยาลัย Exeter ในมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ห้องสมุดอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ โรงละคร Sheldonian และโบสถ์มหาวิทยาลัยแห่ง St. Mary the Virgin ถนนไฮสตรีทที่อยู่ใกล้ๆ มีป้ายจอดรถประจำทางหลายป้าย หรือคุณจะเดินมาจากกลางเมืองก็ได้ ห้องสมุดนี้เปิดให้คนทั่วไปเข้าได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นตลอดทั้งปี
ขอบคุณ : เอ็กซ์พีเดีย
Bridge Of Sighs สะพานซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1900 นี้เป็นจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัย และเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ส่วนของวิทยาลัย Hertford สะพานถอนหายใจเป็นทางเดินในร่มที่เชื่อมตึก 2 หลังของมหาวิทยาลัย สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจของสะพานทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับผู้มาเยี่ยมชมตลอดทั้งศตวรรษที่ผ่านมา เดินมาชมสะพานอันงดงามแห่งนี้และถ่ายภาพสะพานโดยมีโรงละคร Sheldonian เป็นพื้นหลังที่น่าประทับใจ นักศึกษาเดินข้ามสะพานนี้ทุกวันเพื่อเดินจากกลุ่มอาคารรอบจัตุรัสเก่าไปยังจัตุรัสใหม่ในวิทยาลัย Hertford อาคารที่อยู่ทางเหนือประกอบด้วยหอพักนักศึกษาเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่อาคารทางใต้เป็นที่ตั้งของสำนักงานธุรการ สะพานนี้สร้างในปี 1914 โดยสถาปนิกนามว่า Thomas Graham Jackson ชื่อทางการของสะพานนี้คือ สะพาน Hertford แต่ว่ากันว่าอีกชื่อหนึ่งมาจากสะพานถอนหายใจในเวนิส ที่จริงแล้วการออกแบบของสะพานทั้ง 2 แห่งแทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลย สะพานถอนหายใจอยู่ติดกับห้องสมุดบอดเลียน ในวิทยาลัย Hertford ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในการเดินทาง คุณสามารถนั่งรถประจำทางมาลงที่ไฮสตรีท จากนั้นจึงเดินต่ออีก 2 นาที สถานที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียงได้แก่ โรงละคร Sheldonian และโบสถ์มหาวิทยาลัยแห่ง St. Mary the Virgin
ขอบคุณ : เอ็กซ์พีเดีย
Oxford University Museum Of Natural History พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ Oxford ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ที่สร้างเสร็จในปี 1683 เป็นสถานที่เก่าแก่ของพิพิธภัณฑ์ Ashmore พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1924 มีทั้งภารกิจคู่ที่มุ่งเน้นทั้งศึกษาประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์และการวิจัยการพัฒนาวัฒนธรรมตะวันตกและการจัดเก็บ พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นสามชั้นและพิพิธภัณฑ์ยังติดกับห้องสมุดในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ คอลเลกชันมีนับหมื่นชิ้นตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเกือบจะรวมทุกด้านของประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์โดยเฉพาะดาราศาสตร์ด้วยกันเช่นคอลเลกชันดวงดาวดวงอาทิตย์เครื่องพิณและเครื่องมือทางคณิตศาสตร์เบื้องต้นเครื่องมือแสงและเคมี คอลเลกชันของปรัชญาธรรมชาติและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับแพทย์นั้นงดงามมาก
ขอบคุณ : trip.com
ปราสาทอ็อกฟอร์ด(Oxford Castle) เป็นปราสาทขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 11 – 12 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเมือง Oxford ประเทศอังกฤษ โดยตัวปราสาทเดิมส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำกว้าง ไม้ และกำแพงปราสาทชั้นนอกที่ถูกแทนที่ด้วยหิน ในศตวรรษที่ 11 อีกทั้งมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ขัดแย้งของอนาธิปไตย ในช่วงศตวรรษที่ 14 จึงทำให้บริเวณส่วนใหญ่ของปราสาทได้รับความเสียหายในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษและช่วงศตวรรษที่ 18 โดยอาคารที่หลงเหลืออยู่ได้แปรสภาพเป็นเรือนจำท้องถิ่นใน Oxford ซึ่งเป็นเรือนจำแห่งใหม่ที่ได้สร้างขึ้นต่อมาในปี ค.ศ. 1785 และขยายพื้นที่อีกในปี ค.ศ. 1876 จนกลายเป็น HM Prison Oxford ต่อมาเรือนจำได้ถูกปิดตัวลงในปี ค.ศ. 1996 จึงได้ปรับปรุงให้เป็นร้านอาหารและมรดกทางวัฒนธรรม โดยมีมัคคุเทศก์นำเที่ยวพาเที่ยวชมอาคารประวัติศาสตร์ต่างๆ และสนามกลางแจ้งสำหรับเป็นพื้นที่ตลาดและแสดงละคร โรงแรมแห่งนี้ประกอบไปด้วย โรงแรมในเครือ Malmaison Chain, Malmaison Oxford ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามส่วนของเรือนจำที่ใช้เป็นสถานที่ลงโทษหรือประหารชีวิตนักโทษ ได้ดัดแปลงเป็นสำนักงาน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานที่รับแขกแต่อย่างใด ซึ่งโครงการมรดกผสมผสาน ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 ต่อมาได้รับรางวัลในโครงการ RICS ในปี 2007
ขอบคุณ : ตะลอนเที่ยวดอทคอม
Tom tower หอคอยทอมเป็นหอนาฬิกาสไตล์โคกยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นในปี 1682 ตั้งอยู่ใกล้กับวิทยาลัยคริสต์คริสต์ ใกล้ใจกลางเมืองนิวยอร์ก มีนาฬิกาและโคมไฟแปดเหลี่ยมบนหอประตูทรงสี่เหลี่ยม หอคอยทอมเป็นอาคารที่ค่อนข้างสูง บริเวณรอบๆ หอคอยทั้งหมดยังกระจายอยู่ในสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์มากมาย การตั้งค่าบนยอดหอคอยก็ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ คุณสามารถเห็นสิ่งอํานวยความสะดวกและเนื้อหาที่น่าสนใจมากมาย อาคารนี้ยังใหญ่มาก
ขอบคุณ : Trip.com
Radcliffe Camera เป็นสิ่งก่อสร้างแบบนีโอโกธิคที่สวยน่าทึ่ง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งห้องอ่านหนังสือต่างๆ ของห้องสมุดบอดเลียน ตึกแห่งนี้โดดเด่นกว่าสถาปัตยกรรมอื่นที่อยู่รอบๆ เนื่องจากมีรูปทรงกระบอกที่เป็นเอกลักษณ์ และมีโดมที่สวยสะดุดตาคำว่า “คาเมรา (Camera)” มาจากคำว่า “ห้อง” ในภาษาละติน นับตั้งแต่ที่สถาปนิกเจมส์ กิบส์สร้างตึกนี้แล้วเสร็จในปี 1747 ก็มีการใช้ประโยชน์จากตัวตึกหลายอย่าง เช่น การเป็นห้องสมุดอิสระ แต่ปัจจุบันตึกนี้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยจากภายนอก คุณจะได้เห็นลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ซึ่งทำให้ตึกนี้เป็นสัญลักษณ์ด้านการออกแบบที่มีชื่อเสียง ตึกนี้เป็นตึกที่มีผู้ถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และเป็นตัวอย่างห้องสมุดรูปวงกลมที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร แรดคลิฟฟ์ คาเมราตั้งอยู่ระหว่างวิทยาลัยเบรซโนส ออลโซลส์ และเอ็กซิเตอร์ในใจกลางเมือง ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดบอดเลียน โรงละครเชลโดเนียน และโบสถ์ University Church of St. Mary the Virgin ขึ้นรถประจำทางมาที่ใจกลางเมือง แล้วเดินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตามถนนไฮสตรีทซึ่งเป็นถนนหลักเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง
ขอบคุณ : เอ็กซ์พีเดีย
Carfax Tower ตั้งอยู่เชื่อมกับบริเวณถนน Queen Street และถนน High Street ใจกลางเมือง Oxford ประเทศอังกฤษ โดยชื่อ “Carfax” มาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า “Carrefour” หรือ “Crossroads” และตำแหน่งที่ตั้งของอาคารแห่งนี้ ยังเป็นจุดศูนย์กลางที่สามารถเดินทางไปยังย่านใจกลางเมืองเก่าของเมือง Oxford ได้ นอกจากชื่อ Carfax ที่คนทั่วไปมักจะใช้กล่าวถึงอาคารแล้ว ยังเป็นชื่อที่ใช้เรียกสี่แยกได้อีกด้วย โดยอาคารหรือหอคอยแห่งนี้ เป็นสิ่งปลูกสร้างของโบสถ์ St. Martin ที่หลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ซึ่งภายในโบสถ์ใช้เป็นสถานที่ฝังศพของนายกเทศมนตรีของ Oxford อย่างน้อย 20 คน ต่อมาในปี ค.ศ. 1820 โบสถ์แห่งนี้ถูกรื้อถอน เนื่องจาก บริเวณตัวอาคารทรุดโทรมลงและไม่มั่นคง ยกเว้นบริเวณด้านตะวันตกของอาคารที่ยังคงอยู่หลังจากที่รื้อถอนโบสถ์เดิมออก ก็ได้สร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นมา ในปี ค.ศ. 1822 เป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่ มีสถาปัตยกรรมแบบ Neo – Gothic ภายในมีหน้าต่างที่มีลวดลายสวยงามและนาฬิกาที่หันหน้าเข้าสู่ Carfax ต่อมาในปี ค.ศ. 1896 โบสถ์นี้ถูกทำลายลง เนื่องจากต้องการปรับปรุงถนนให้กว้างขึ้น รวมถึงแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะว่าบริเวณนี้เป็นหนึ่งในทางแยกที่มีการจราจรติดขัดที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง Oxford รวมถึงยังเป็นย่านที่เป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยว ในขณะที่โบสถ์ถูกทำลาย บริเวณอาคารก็ได้ถูกสงวนเก็บไว้ ในปัจจุบัน อาคารหรือหอคอยแห่งนี้ เป็นของ Oxford City Council ยอดหอคอยมีความสูงประมาณ 74 ฟุต ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมือง Oxford ได้อย่างกว้างขวางในมุม 360 องศา ทางด้านตะวันออกเป็นนาฬิกา ซึ่งลอกแบบมาจากโบสถ์เดิม นอกจากนี้ก็มีระฆังอีก 6 ใบ ในสมัย ค.ศ. 1676
ขอบคุณ : ตะลอนเที่ยวดอทคอม
Ashmolean Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดี ตั้งอยู่บริเวณถนน Beaumont เมือง Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1678 – 1683 โดยบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของคณะรัฐมนตรี โดย Elias Ashmole ได้มอบให้แก่ University of Oxford ในปี ค.ศ. 1677 เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1683 โดยนักธรรมชาตินิยมที่ชื่อ Robert Plot ซึ่งเป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เป็นคนแรก ต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ The Old Ashmolean หลังจากที่ได้ย้ายวัตถุต่างๆ เข้าไปยังบริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่แล้ว อาคารหลังเก่า หรือ Old Ashmolean ได้ถูกใช้เป็นพื้นที่สำนักงานของ Oxford English Dictionary ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 อาคารได้รับการสถาปนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยมีการจัดนิทรรศการที่มีทั้งเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่มอบให้กับ Oxford University โดย Lewis Evans
อาคารปัจจุบันสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1841 – 1845 ออกแบบโดย Charles Cockerell ในแบบคลาสสิก หนึ่งในปีกของอาคารถูกครอบครองโดย The Taylor Institution คณะภาษาสากลของมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนน Beaumont และถนน St Giles ได้รับการออกแบบโดย Charles Cockerell ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์กรีก ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ประกอบไปด้วย ผลงานตัวอย่างที่เกี่ยวกับโบราณคดีและผลงานศิลปะต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด เครื่องเคลือบดินเผาของอิตาลี เหรียญโลหะที่ใช้แทนเงิน เหรียญในประเทศจีน รวมไปถึงศิลปะการตกแต่งของยุโรปตั้งแต่ยุคเรเนสซองส์จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วยภาพวาดสีน้ำมัน เครื่องปั้นดินเผา รูปปั้นแกะสลัก เครื่องเคลือบดินเผา เครื่องเงิน แหวน นาฬิกา และเครื่องดนตรี ส่วนแผนกโบราณคดี จะประกอบไปด้วย มรดกของ Arthur Evans และผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยมในยุคกรีก หลังจากนี้ได้มีการปรับปรุงพัฒนาพิพิธภัณฑ์ขึ้นใหม่ เปิดให้บริการอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009 โดยห้องแสดงผลงานศิลปะได้มุ่งเน้นไปยังวัฒนธรรมและวัตถุโบราณของอียิปต์และซูดาน ต่อมาในปี ค.ศ. 2016 พิพิธภัณฑ์ได้เปิดหอศิลป์แห่งใหม่ขึ้น ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งได้เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะของ Elias Ashmole
ขอบคุณ : ตะลอนเที่ยวดอทคอม
Pitt river museum ที่เป็นเก็บสะสมทางโบราณคดีและมานุษยวิทยาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ Pitt Rivers Museum ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2427 พิพิธภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้ครอบคลุมประวัติศาสตร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์วิทยา และศิลปะทุกยุคสมัยและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยมีสิ่งของมากกว่า 500,000 ชิ้น ตั้งแต่บูมเมอแรงไปจนถึงเครื่องดนตรี และตั้งแต่หัวหดไปจนถึงสิ่งทอและเครื่องประดับ นี่คือหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ยอดนิยมของอ็อกซ์ฟอร์ดและด้วยเหตุผลที่ดีของขวัญก่อตั้งของ General Pitt Rivers มีมากกว่า 26,000 รายการ ปัจจุบันมีสิ่งของ ภาพถ่าย และต้นฉบับกว่าครึ่งล้านชิ้นจากทั่วโลกและจากทุกยุคสมัยของมนุษย์ คอลเลกชันจำนวนมากเป็นบันทึกเฉพาะของงานภาคสนามและการเดินทางทางมานุษยวิทยา ซึ่งจำนวนหนึ่งได้รับการวิจัยและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์เป็นแผนกการสอนของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มันยังคงขยายคอลเลกชันผ่านการบริจาค มรดก และการซื้อพิเศษ พิพิธภัณฑ์มีภาพถ่ายมากกว่า 13,000 ชิ้นจากซูดานและซูดานใต้ และสิ่งประดิษฐ์มากกว่า 5,000 ชิ้น คอลเลกชันภาพถ่ายที่กว้างขวางรวมถึงภาพถ่ายยุคแรกๆ ของชาวซูดานและการตกแต่งภายในของแอฟริกา ภาพถ่ายและสิ่งประดิษฐ์จากซูดานใต้เป็นหัวข้อของโครงการวิจัยที่สำคัญในปี 2546-5 และส่งผลให้มีเว็บไซต์ที่ดึงดูดความสนใจไปทั่วโลก พิพิธภัณฑ์ยังคงทำงานอย่างกว้างขวางกับสมาชิกทั้งชาวซูดานใต้และพลัดถิ่นเกี่ยวกับมรดกของสิ่งของเหล่านี้
ขอบคุณ : Pitt Rivers Museum - bandpasses
Comments