top of page

เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองยังไงดี !!!


การสื่อสารมีความสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษ ในการสื่อสารจะมีทั้งการฟังและพูด เพื่อสร้างบทสนทนาและสามารถโต้ตอบได้อย่างเข้าใจ

แต่ปัญหาของผู้เรียนส่วนใหญ่จะเจอในการสื่อสารคือฟังได้แต่ตอบไม่ได้ พูดไม่ออก เรียนไปตั้งนานแต่ไม่เห็นการพัฒนา ทำให้รู้สึกว่าเรียนไปก็เสียเวลาไปเปล่า ๆ


🌟สำหรับน้องๆคนไหนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษ วันนี้ทาง IK มีทริคง่ายๆช่วยให้น้องๆพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เริ่มเลอออ!


📌1.เข้าใจพื้นฐานภาษาอังกฤษของตัวเองก่อน

ก่อนจะเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ หากเข้าใจพื้นฐานหรือระดับภาษาของตัวเองก่อน ก็จะเลือกเรียนได้ตรงจุดมากขึ้น การเรียนง่ายเกินระดับก็อาจจะทำให้เบื่อหรือพัฒนาช้ากว่า ในขณะที่การเรียนยากเกินระดับก็อาจทำให้เรียนไม่เข้าใจหรือท้อได้ง่าย ดังนั้นจึงควรต้องทดสอบระดับภาษาของตัวเองก่อนเลือกเรียนเสมอ เพื่อวัดระดับความรู้ความเข้าใจของตัวเองก่อน ซึ่งแม้ว่าจะเป็น Beginner ก็สามารถทดสอบได้ เช่น ดูว่าตัวเองรู้คำศัพท์ระดับไหน ทดลองอ่านหนังสือง่ายๆ ไปถึงระดับยาก เช่น นิทานเด็กไปสู่เรื่องสั้นเยาวชนไปสู่คอลัมน์ข่าว หรืออาจจะมีบางทักษะที่พัฒนาเร็วหว่าหรือช้ากว่าอีกทักษะหนึ่ง ซึ่งก็สามารถดูได้ผ่านการทดสอบทักษะภาษา


📌2.ตั้งเป้าหมายของการเรียน

การตั้งเป้าหมายในการเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องยากลำบาก ที่จะต้องเจอปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกแย่ รู้สึกท้อแท้ได้ ดังนั้นการตั้งและมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี ช่วยฝึกฝนทักษะและผ่านความรู้สึกท้อแท้ไปได้ โดยตัวอย่างของการตั้งเป้าหมายที่ดีต่อการเรียนภาษาก็เช่น

• อยากไปเที่ยวต่างประเทศ

• อยากฟังเพลง อ่านหนังสือหรือดูหนังภาษาอังกฤษได้

• ได้รู้จักคนใหม่ๆ หาเพื่อนใหม่ๆ

• ไปเรียนต่อ

• เพิ่มความก้าวหน้าด้านการทำธุรกิจหรือการงาน

เป้าหมายเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว แรงใจที่จะเรียนต่อก็จะตามมาเอง


📌3. เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษจากการเรียนคำศัพท์ใหม่ๆ 

เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ ด้วยการเรียนคำศัพท์พื้นฐานจะช่วยให้เข้าใจประโยคได้ง่ายขึ้นและต่อยอดการเรียนรู้อื่นๆ ได้มากขึ้น โดยคำศัพท์ที่เราสามารถเริ่มฝึกได้ก็จะเป็นคำศัพท์ที่เราเห็นบ่อยในสื่อรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนังภาพยนตร์ หรือสังคมรอบตัวเราเอง ด้วยเหตุนี้เอง จึงควรฝึกอย่างรอบด้านทั้งฟัง พูด ดูและเขียนคำศัพท์ หรืออาจจะใช้เทคนิคการท่องศัพท์ให้จำได้ มาช่วยเสริมในการฝึกศัพท์ไปด้วย


📌 4. ฟังเพลงและร้องเพลง

การฟังและร้องเพลงเป็นหนึ่งในวิธีเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เลียนเสียงและจำคำศัพท์ได้เยอะและเร็ว ด้วยจังหวะและทำนองที่นอกจากจะเพิ่มความสนุกสนานแล้ว ยังมีช่วยให้จดจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ทำให้เบื่ออีกด้วย จึงเหมาะสมกับทุกคนอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นการเรียนรู้ภาษาที่เป็นธรรมชาติและเหมือนกับเจ้าของภาษา ช่วยให้การออกเสียงมีความแม่นยำขึ้นอีก


📌5. ฟัง ฟัง ฟัง และฟัง

นอกจากการร้องเพลงแล้วก็ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่จะช่วยให้โอกาสที่จะได้ฟังคำศัพท์เพิ่มเข้าไปอีก เช่น วิทยุ พอดคาสต์ ซึ่งสำหรับแต่ละระดับก็มีสื่อที่เหมาะกับการฟังต่างกันไป เช่น

• ผู้ที่อยู่ในระดับ Beginner และต้องการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองสามารถเลือกรายการง่ายๆ เช่น รายการสำหรับเด็ก เล่านิทาน บทสนทนาโต้ตอบสั้นๆ เป็นตัวเริ่มต้นได้

• ผู้ที่อยู่ในระดับ Intermediate อาจเลือกการฟังข่าวสั้นในหัวข้อทั่วไปที่สนใจ ฟังบทสนทนาที่ยาวมากขึ้น หรือเริ่มฟังนิยาย เรื่องราว สารคดีทั่วไปที่ไม่ซับซ้อนมาก

• ผู้ที่อยู่ในระดับ Advanced อาจเลือกการฟังข่าวที่มีความซับซ้อนมากขึ้น หรือฟังหนังสือเสียงที่มีความยาวมากขึ้น


📌6.สื่อบันเทิงรอบตัวช่วยได้

อีกหนึ่งแหล่งที่ดีในการฝึกภาษาก็จะเป็นสื่อบันเทิงรอบตัว เช่น หนัง ซีรีส์ รายการทีวี ยูทูบเบอร์ เกม ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่คำเหล่านี้มักจะเป็นคำที่พบบ่อยและใช้งานในสถานการณ์จริง ไม่ใช่คำหายากหรือคำที่ใช้แค่ในการร้องเพลงหรือในวรรณกรรมเท่านั้น ซึ่งหากใครอยากเริ่มฝึกภาษาด้วยวิธีนี้ ก็ขอแนะนำ 10 ซีรี่ย์ฝึกภาษาอังกฤษไว้เป็นตัวเลือกเพิ่มไปด้วย


📌7.ฝึกพูด

ในขั้นตอนการเตรียมตัวเพื่อเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ การพูดเป็นทักษะที่จำเป็นต้องฝึกด้วยการพูดให้ร่างกายจดจำได้ จึงจะพัฒนาความเก่งในทักษะประเภทนี้ได้ ซึ่งการฝึกพูด ฝึกสนทนานั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถเริ่มต้นที่การทำอะไรง่ายๆ เช่น เลียนแบบสิ่งที่เคยได้ยิน ลองพูดตามประโยคหรือคำพูดต่างๆ ก็สามารถพัฒนาการพูดได้


📌8.ฝึกอ่าน

การเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษนั้นมีข้อดีที่จะทำให้เราเข้าถึงตัวเลือกการเรียนภาษาที่หลากหลายและมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข่าวและบทความออนไลน์ ที่นอกจากจะได้ภาษาแล้ว ยังได้รู้เท่าทันโลก อ่านเรื่องสั้น นิยาย  หรือแม้แต่บทสนทนาในเว็บบอร์ด ข้อความโซเชียลมีเดียก็สามารถทำได้  โดยสามารถเลือกฝึกตามระดับได้ เช่น

• ผู้ที่อยู่ในระดับ Beginner สามารถเริ่มต้นโดยการทดลองอ่านหนังสือนิทานง่ายๆ แล้วสรุปว่าเรื่องเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรกับใครก็ได้ หรืออาจจะเริ่มจากหนังสือภาษาอังกฤษแนะนำอื่นๆ ที่ถูกใจเราก็ได้

• ผู้ที่อยู่ในระดับ Intermediate อาจเลือกฝึกอ่านข่าวภาษาอังกฤษ บทความสั้นๆ ในหัวข้อทั่วไปที่สนใจ หรือนิยายที่มีระดับความยากอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

• ผู้ที่อยู่ในระดับ Advanced อาจเลือกการอ่านข่าวที่มีความซับซ้อนมากขึ้น หรือหัวข้อที่มีความเป็นวิชาการ ใช้ศัพท์ที่เป็นทางการมากขึ้น


📌9.ฝึกเขียน

การฝึกภาษาอังกฤษผ่านการเขียนนั้น สามารถพัฒนาหลายทักษะไปพร้อมๆ กัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือหรืออุปกรณ์อะไรมากในการพัฒนาทักษะ และมีความสำคัญในการทำงานและเรียนอย่างมาก เช่น การเขียน Essay Writing  ก็ต้องใช้ทักษะเขียนเป็นหลักทั้งนั้น ซึ่งเราสามารถเริ่มต้นด้วยการ ฝึกเขียนประโยคสั้นๆ ก่อนดูตัวอย่าง ลอกเลียนจากพจนานุกรม และลองสับเปลี่ยนคำศัพท์


📌10.ใช้แอปพลิเคชันและสื่อการสอนต่างๆ

การใช้แอปพลิเคชันและสื่อการสอนต่างๆ เพื่อช่วยในการเรียนภาษาอังกฤษนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะสิ่งเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อสอนและทำปฏิสัมพันธ์กับเรา ทำให้การเรียนภาษาไม่น่าเบื่อและมีกิจกรรมให้ทำอยู่เรื่อยๆ อีกเรื่องหนึ่งคือความสะดวกในการที่จะเรียนภาษาที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้จึงเหมาะกับผู้ที่อยากเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองในช่วงว่างๆ นั่นเอง


ขอบคุณบทความจาก : interpass.in.th

ดู 55 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page